รีพอร์ต
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดพลาดท่าพ่าย 1 – 0 แบบโชคร้ายต่อเวสต์ บรอมวิช อัลเบี้ยน ที่สนามเดอะ ฮอว์ธอร์นส หลังจากลงเล่นนานกว่าชั่วโมงด้วยตัวผู้เล่น 10 ตัว จากใบแดงของ ฮวน มาต้า
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต้องเล่นแบบเสียเปรียบตัวผู้เล่นนาน 64 นาที หลังจากที่มาต้าได้รับใบเหลืองที่ 2 ในช่วงเวลาห่างกันเพียง 2 นาทีในครึ่งแรก โดยใบแรกได้มาจากการถอยไม่ถึง 10 หลาในจังหวะฟรีคิกของ ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ ก่อนที่อีกไม่กี่วินาทีต่อมาจะไปทำฟาวล์เฟล็ตเชอร์จนได้รับไปอีกใบ แต่แม้ว่าทีมปีศาจแดงจะเสียเปรียบตัวผู้เล่น พวกเขาก็สามารถตั้งเกมรับกันได้ดี จนกระทั่ง โซโลม่อน รอนดอน มาซัดประตูโทนซึ่งกลายมาเป็นลูกตัดสินเกมในช่วงกลางครึ่งหลัง
คริส สมอลลิ่ง กลับคืนสู่ทีม หลังจากหายไป 3 เกม เช่นเดียวกับ มัตเตโอ ดาร์เมียน ทั้งคู่กลับมาลงเล่นแทน ทิโมธี โฟซู-เมนซาห์ และ กิเยร์โม่ บาเรล่า ตามลำดับ ในแผงมิดฟิลด์มีการเปลี่ยนแปลง 2 ตำแหน่ง กัปตันอย่าง ไมเคิล คาร์ริค ถูกส่งลงมาแทน มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน ขณะที่ เจสซี่ ลินการ์ด ลงเล่นแทน เมมฟิส เดปาย ขณะที่ทางเจ้าถิ่นส่งอดีตนักเตะปีศาจแดงลงสนามถึง 3 คน คือ เบน ฟอสเตอร์, เจมส์ เชสเตอร์ และเฟล็ตเชอร์
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมาเยือนถิ่นมิดแลนด์สด้วยความมั่นใจ หลังจากคว้าชัยชนะมา 4 เกมติดต่อกันรวมทุกรายการ และหากเก็บชัยชนะนัดนี้ได้ก็จะมีแต้มเทียบเท่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้สำหรับการไล่ล่าพื้นที่ท็อป 4 ความมั่นใจดังกล่าวส่งให้ทีมปีศาจแดงคุมเกมได้ตลอดในช่วงแรก อ็องโตนี่ มาร์กซิอัล ซึ่งยืนทางฝั่งซ้ายได้ลองซัดจากระยะ 25 หลา ในนาทีที่ 3 แต่บอลก็ไปตรงตัวฟอสเตอร์
ที่อีกฝั่งของสนาม เคร็ก ดอว์สัน ได้ขึ้นโขกข้ามคาน ในจังหวะที่เขาน่าจะทำได้ดีกว่านี้ ก่อนที่ ไซโด้ เบราฮิโน่ จะได้ยิงไปติดบล็อคสมอลลิ่ง ตามด้วยจังหวะฟรีคิก 2 ครั้งของ เคร็ก การ์ดเนอร์ ที่ไปแฉลบมาร์กซิอัลหลุดกรอบ และเปิดให้ แกเร็ธ แม็คเคาลี่ย์ โขกออกหลังตามลำดับ
จุดเปลี่ยนของเกมมาเปิดขึ้นภายในช่วงเวลาแค่ 2 นาที ครั้งแรกเป็นมาต้าที่ถูกจดชื่อในนาทีที่ 24 หลังจากที่ไปขัดขวางการเล่นฟรีคิกของเฟล็ตเชอร์ ก่อนที่ใบต่อมาจะตามมาอย่างรวดเร็ว เมื่อมาต้าไปเตะอดีตแข้งปีศาจแดงรายนี้ล้มลง ทำให้เขาได้รับใบเหลือง 2 ใบ กลายเป็นใบแดงแรกในอาชีพค้าแข้งของมิดฟิลด์ชาวสเปนรายนี้
เจ้าถิ่นพยายามใช้ความได้เปรียบเข้าโจมตีทันที ดอว์สันลองยิงจากระยะ 30 หลาหลุดเสาไกล ก่อนที่เบราฮิโน่จะยิงไปเข้าหน้าอกของ ดาบิด เด เคอา
สมอลลิ่งซึ่งเพิ่งกลับมาลงสนามต้องรับหน้าที่หยุดยั้งรอนดอน ดาวซัลโวของเวสต์ บรอมวิช อัลเบี้ยน ซึ่งก็ถือว่าเขาทำได้ดี และจบครึ่งแรกก็เสมอกันไปก่อนแบบไร้สกอร์
แม้จะเหลือตัวผู้เล่นแค่ 10 ตัว แต่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็เริ่มต้นครึ่งหลังได้ดีเหมือนกับช่วงต้นครึ่งแรก มาร์กซิอัลที่เล่นได้อันตรายทางฝั่งซ้ายได้ครอสบอลเลียดให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ยิงไปแฉลบหลุดกรอบนิดเดียว
ทีมปีศาจแดงยังเปิดเกมกดดันเจ้าถิ่น จนกระทั่งได้ลูกเตะมุมหลายครั้ง ก่อนที่ลินการ์ดจะได้ลากตัดเข้าในจากฝั่งซ้ายแล้วยิงจากระยะ 25 หลาแฉลบคานออกไป ที่อีกฝั่งของสนาม เบราฮิโน่ก็ทำได้ใกล้เคียงเช่นกัน แต่ลูกยิงวอลเล่ย์ของเขาก็พุ่งผ่านเสาแรกออกไปนิดเดียว
ประตูแรกของเกมมาถึงจนได้ในนาทีที่ 66 ตัวสำรอง เซบาสเตียน โปโคโญลี่ ครอสบอลจากฝั่งซ้ายมาให้รอนดอนซึ่งควบคุมบอลได้ดี ก่อนที่เขาจะยิงจากระยะ 15 หลาเข้าไปเป็นประตูที่ 8 ของเจ้าตัวในฤดูกาลนี้
หลังจากประตูดังกล่าว โอกาสลุ้นของทั้ง 2 ทีมก็มีน้อยลง ดูเหมือนว่าเวสต์ บรอมวิช อัลเบี้ยน จะเล่นกันแบบปิดเกมไปแล้ว และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็ไม่สามารถตามตีเสมอได้ การทดเวลาบาดเจ็บ 4 นาทีแทบไม่มีผลอะไร สุดท้ายก็จบลงที่ชัยชนะของเจ้าถิ่น หมายความว่าสถิติชัยชนะต่อเนื่องของทีมปีศาจแดงต้องจบลงแต่เพียงเท่านี้ และก็ต้องพบกับความพ่ายแพ้ที่เดอะ ฮอว์ธอร์นสเป็นครั้งแรกในยุคพรีเมียร์ ลีกด้วย
สถิติ